6 ประเภท Air Compressor ที่ควรรู้!!!!

6 ประเภท Air Compressor ที่ควรรู้!!!!

6 ประเภท Air Compressor ที่ควรรู้!!!!

Air Compressor หรือปั๊มลม มีหน้าที่ในการอัดลมทำให้มีแรงดันสูงตามที่ต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท ซึ่งมี 6 ประเภท Air Compressor ที่ควรรู้จักดังนี้

1.) ปั๊มลมประเภทไดอะเฟรม (Diaphragm Air Compressor)
ปั๊มลมประเภทไดอะเฟรม เป็นปั๊มลมที่ใช้หลักการทำงานของคล้ายลูกสูบ แต่จะมีแผ่นไดอะแฟรมเป็นตัวกั้นไม่ให้อากาศสัมผัสกับลูกสูบ ทำให้ลมที่ถูกดูดเข้าไปในปั๊มหรือเครื่องอัดลมจะไม่โดนหรือสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ ส่วนลมที่ได้ก็จะไม่มีการผสมกับน้ำมันหล่อลื่น จึงมีการนิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน เช่น อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอาหาร

2.) ปั๊มลมประเภทลูกสูบ (Reciprocating Air Compressor)
หลักการทำงานปั๊มลมลูกสูบ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังมาขับเคลื่อนลูกสูบให้เคลื่อนที่ขึ้นลง ทำให้เกิดแรงดูดและอัดอากาศภายในกระบอกสูบ โดยมีวาล์วทางด้านดูดและวาล์วทางออกทำงานสัมพันธ์กัน ถือเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้งานมากที่สุดด้วยความเหมาะสมต่อการใช้งานและราคาที่ไม่สูงมากนักและยังสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกอีกด้วย

3.) ปั๊มลมประเภทสกรู (Screw Air Compressor)
ปั๊มลมประเภทสกรู เป็นที่นิยมในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป เพราะเครื่องปั๊มลม หรือ Air Compressor ประเภทนี้จะให้การผลิตลมที่มีคุณภาพสูง โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการหมุนเพลาสกรู 2 ตัวให้หมุนเข้าหากันทำให้เกิดแรงอัดอากาศขึ้นมาเครื่องปั๊มลมหรือเครื่องอัดอากาศประเภทนี้จะสามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) และยังสามารถทำความดันได้สูงถึง 13 บาร์เลยทีเดียว

4.) ปั๊มลมประเภทใบพัดเลื่อน (Sliding Vane Rotary Air Compressor)
ปั๊มลมประเภทใบพัดเลื่อน จุดเด่นของปั๊มลมประเภทนี้คือการที่เครื่องหมุนเรียบให้ความสม่ำเสมอ ทำให้อากาศที่ออกมามีแรงดันที่คงที่ เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงลมที่สม่ำเสมอและคงที่ เครื่องปั๊มลมประเภทนี้จะไม่มีลิ้นหรือวาล์วในการเปิดปิดในพื้นที่จำกัดทำให้ไวต่อความร้อน สามารถกระจายแรงลมได้ 4–100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที ความดันของลมอยู่ที่ 4–10 บาร์

5.) ปั๊มลมประเภทกังหัน (Redial and Axial flow Air Compressor)
ปั๊มลมประเภทกังหัน เป็นปั๊มลมอีกประเภทหนึ่งที่มีการจ่ายอัตราลมที่มาก เนื่องจากลักษณะจะเป็นใบพัดกังหันดูดลมเข้าจากอีกด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ตามแกนด้วยการหมุนที่มีความเร็วสูง และลักษณะของใบพัดก็เป็นส่วนสำคัญเรื่องอัตราการจ่ายลม สามารถกระจายแรงลมได้ตั้งแต่ 170–2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min)

6.) ปั๊มลมประเภทใบพัดหมุน (Roots Air Compressor)
ปั๊มลมประเภทใบพัดหมุน ลักษณะของปั๊มลมประเภทนี้จะมีใบพัดหมุน 2 ตัว เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน จะทำให้ลมถูกดูดเข้าไปจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง โดยอากาศที่ถูกดูดเข้าไปนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนปริมาตร ทำให้อากาศที่ไม่ถูกบีบหรืออัดตัว แต่อากาศจะมีการอัดตัวตอนที่เข้าไปเก็บในถังลม ปั๊มลมประเภทนี้ต้องอาศัยการระบายความร้อนและอุณหภูมิที่ดี ไม่มีลิ้น ไม่ต้องการหล่อลื่นขณะทำงาน และมีต้นทุนการผลิตที่สูง

และนี่ก็เป็นข้อควรรู้สำคัญที่ผู้ใช้จะต้องคำนึงเป็นพิเศษในการเลือกซื้อ สรุปได้ว่าสิ่งสำคัญที่จะช่วยในการเลือกซื้อเครื่องปั๊มที่คุณจะต้องทำความเข้าใจกับ วิธีเลือกซื้อปั๊มลม ชนิดต่างๆ ความดันลม อัตราการใช้ลม รวมไปถึงชนิดของลมที่จะเลือกใช้ด้วย โดยจะมีทั้งแบบไร้น้ำและแบบมีน้ำมัน นอกจากนี้ยังควรคำนึงไปถึงปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นการระบายความร้อนด้วยอากาศ น้ำ หรือขับความร้อนออกด้วยระบบไฟฟ้า ขับด้วยตัวเครื่องยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย

Cr. www.letterplanet.com